หุ้นสหรัฐไม่สะเทือนจากการเคลื่อนไหวของน้ำมันดิบ ฟลักซ์อีฟอเรียยังคงดำเนินต่อไป อิชิโนะ ผู้เขียน "กระแสตลาด"
วันที่ออกอากาศ: 2016/11/30 08:11
潮流168 มหึมาสหรัฐที่ไม่สะเทือนจากการเคลื่อนไหวของน้ำมันดิบ สไตล์ยูโฟเลียยังคงอยู่
ก่อนอื่น การเคลื่อนไหวของฟิวเจอร์ตน้ำมันดิบที่กำลังจะมีการประชุม OPEC ในคืนนี้
ตั้งแต่ช่วงเย็นของเมื่อวาน แม้จะมีการเตือนจากผู้ประกอบการว่า “นักลงทุนโดยรวมมองโลกในแง่ดี การซื้อเพิ่มในฟิวเจอร์สและออปชันมีมากกว่าการขายออก” เป็นเหตุให้ราคาน้ำมันดิบสูงขึ้น และดอลลาร์แข็งค่ากับเยน แต่เมื่อสหรัฐฯ ประกาศ GDP ไตรมาส 3 (ปรับย้อนหลัง) ที่ 3.2% สูงกว่าคาดเฉลี่ยที่ +3.0% ประเด็นว่า “ตัวเลขที่แข็งแกร่งมากกว่าปีสองปีที่ผ่านมาคือของจริง” ทำให้ตลาดมองขึ้นไปถึงความเป็นไปได้ในการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม และถึงแม้ดอลลาร์จะยังแข็งค่าต่อเนื่อง แต่ที่จุดนี้เป็นจุดเปลี่ยน (inflection point) ของตลาด
ฟิวเจอร์สน้ำมันดิบแตะที่ระดับสูงสุดราว 1 บาร์เรลเท่ากับ 46.75 ดอลลาร์ในเวลาประมาณ 17:45 ตามเวลาญี่ปุ่น และหลังจากจุด Inflection point ราคาก็ร่วงลงอย่างรวดและไม่สามารถฟื้นตัว เหตุจบที่ 45.23 ดอลลาร์
สิ่งที่ถูกมองเป็นปัจจัยสำคัญคือ การประชุมครั้งนี้จะไม่เห็นการเห็นชอบลดกำลังการผลิต ตามเหตุผลที่ว่า ไอราน(อิหร่าน)มองว่า “อิหร่านจะไม่ลดกำลังผลิต” และผู้เกี่ยวข้องจากซาอุฯ กล่าวว่า “หากอิหร่านหรืออิรักไม่เข้าร่วมลดกำลังผลิต จะมีการยกเลิกข้อตกลง” (ข้อมูลบางส่วนจากผู้ให้ข้อมูล) รัฐมนตรีพลังงานของรัสเซีย โนเบค ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะไม่เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ และกล่าวว่า “ก่อนอื่นต้องมีข้อตกลงในกลุ่ม OPEC ก่อน” ซึ่งทำให้ความผิดหวังเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ “ซาอุฯ vs. อิหร่าน, อิรัก” ได้ปรากฏชัดตั้งแต่การประชุมปรึกษาหารือล่วงหน้าของผู้เชี่ยวชาญ 14 ประเทศของ OPEC เมื่อวานแล้ว ซึ่งผลออกมาก็คือ “ชะลอการตัดสินใจ และให้ผู้รัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมในภายหลัง” ซึ่งไม่ได้บ่งชี้ทิศทางเพิ่มเติมของการเห็นชอบหรือยกเลิกใดๆ
เมื่อพิจารณาว่ากำหนดการลดกำลังผลิตทางตอนเหนือในเดือนกันยายนที่อัลจีเรียเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ที่ 32.5-33.0 ล้านบาร์เรลต่อวันจะเป็นอย่างไร จะเป็นไปในสามสถานการณ์คือ “ยกเลิก” “คงปริมาณการผลิตต่อไป” หรือ “เห็นด้วยในระดับที่เล็กลง” ในตอนนี้ยังไม่มีความหมายที่จะทำนาย เพราะเป็นเรื่องที่มนุษย์ต้องตัดสินใจ สิ่งที่ทราบแน่นอนคือผู้เล่นสเปคูลเลเตอร์ที่ถือสัญญาฟิวเจอร์สและออปชันมีสถานะซื้อกันมากเท่านั้น
ถึงอย่างนั้น หุ้นสหรัฐก็ไม่สะเทือน
ดัชนีดาวโจนส์ยังคงไม่เคลื่อนไหวในการปิดวันและยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงถึง 100 จุดตลอด 12 วันทำการที่ผ่านมา และค่าเฉลี่ย 5 วันที่ของ VIX ได้ลดลงจากราว 16% มาอยู่ที่ราว 12% ในช่วง 12 วันที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ปรับขึ้นถึง 313.72 จุด ในช่วง 12 วันที่ผ่านมา ซึ่งแสดงถึงภาวะฟลิปโปโลเรียย์ ยูโฟเลีย ความเห็นว่า “ตลาดหุ้นทำท่าจะหายใจสะดวกจากการขึ้นลงของทรัมป์” ถึงแม้จะมีการปรับฐานเล็กน้อยจากนี้ไปก็ยังเป็นช่วงสตาร์ทที่มีโอกาสขึ้นสูงต่อไป
วันนี้ ค่า RSI 14 ของดัชนี Nikkei ที่ปิดในวันที่ 30 จะมีค่าสูงเป็นประวัติการณ์ หากนำปิดเมื่อวานมาคำนวณ จะได้ 96.446% ซึ่งเป็นค่าที่สูงที่สุดใน 12 ปีที่ผ่านมา รองลงมาเป็น 99.562% เมื่อ 08/03/2009 และ 99.488% ในวันถัดไป (ดู Look Back หลังจากที่แสดงค่า >90% แล้ว ตามที่กล่าวไปก่อนหน้านี้)
พรุ่งนี้ จะเป็นการเขียนถึงแนวโน้มของแรงงานต่างชาติและการเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วงก่อนและหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีนี้เป็นระยะเวลาสองสัปดาห์
