จุดเด่นในการเลือกหุ้นมูลค่า No.2
สวัสดีครับ/ค่ะ
ครั้งก่อนเราได้พูดถึงพื้นฐานของการลงทุนแบบ Value และจุดสำคัญต่างๆ แล้ว เป็นอย่างไรบ้างครับ/คะ?
คุณพอจะมีภาพรวมความเข้าใจบางส่วนอยู่บ้างหรือไม่?
① การลงทุนแบบ Value = การลงทุนระยะยาว? ผลทบจากทบต้นที่น่าทึ่ง
ตอนนี้ โดยทั่วไป การลงทุนแบบ Value จะถูกกล่าวถึงว่าเป็นการลงทุนระยะยาวใช่ไหมครับ/คะ
การลงทุนระยะยาวนั้นมีความเห็นที่ว่าเป็นการหลอกลวงขาดทุนที่เก็บไว้ในกองทุนหรือไม่ (หัวเราะ) ได้ยินบ่อยครับ/ค่ะ
ที่ทำให้คนรู้จัก Warren Buffett คือการถือหุ้นระยะยาวตลอดไป เช่น Wells Fargo และ AMEX, Coca-Cola, IBM เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ความจริงคือ สำหรับหุ้นที่ไม่ใช่หุ้นที่ถือยาวนานนั้น มักถูกขายในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปี หรือแม้กระทั่งไม่ถึง 1 ปีก ซึ่งไม่เป็นที่รู้จักมากนัก
สรุปว่า การลงทุนแบบ Value ไม่จำเป็นต้องหมายถึงการลงทุนระยะยาวเสมอไป
(ที่จริง การถือหุ้นระยะยาวแบบยืดหยุ่นนั้น เกิดขึ้นเพราะมีระบบ Berkshire Hathaway อยู่จริงๆ ซึ่งเรื่องนี้ ไว้ค่อยอธิบายในโอกาสถัดไป)
ครั้งก่อน,
>ROIC — ค่าใช้จ่ายทุน คูณด้วยมูลค่าเงินลงทุนทั้งหมด เรียกว่า EVA (Economic Value Added) ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงมูลค่าผู้ถือหุ้น (ในระยะกลาง-ยาว) ที่ส่งผลให้มูลค่าตลาดสูงขึ้น ดังนั้น การถือบริษัทที่มีค่าในระยะยาว เพื่อสร้างรายได้จาก Capital Gain ก็จะมากขึ้นหากปล่อยทิ้งไว้มากขึ้น
ดังที่ได้อธิบายไว้
นั่นคือ ‘บริษัทที่เพิ่มมูลค่าต่อเนื่อง’ = มูลค่าบริษัทสูง, Spread (ROIC - ต้นทุนทุน) บวกเป็นเงื่อนไขที่จำเป็น
ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ยิ่งปล่อยไว้มากเท่าไร ก็ยิ่งได้ Capital Gain มากเท่านั้น จึงเป็นเหตุผลที่เป็นการลงทุนระยะยาว
นี่คือความหมายของ “การลงทุนแบบ Value ที่ทำให้เวลาเป็นผู้ช่วยการลงทุน” ตามหัวข้อที่กล่าวถึง
การลงทุนที่เพิ่มมูลค่าของสินทรัพย์เมื่อเวลาผ่านไปคือ “การลงทุนในมูลค่าของบริษัท” ดังนั้นหากการบริหารงานของบริษัทที่ลงทุนมีคุณภาพลดลงอย่างไร ก็อาจมีเหตุที่ขายออกในระยะสั้นได้
ลองดูผลทบจากทบต้นอันทรงพลังนี้หน่อยนะครับ/คะ
ตัวอย่าง CAGR ของ Buffett (1965–2015) ตามจดหมายล่าสุดอยู่ที่ 20.8% หากท่านฝากเงิน 1 ล้านบาทไว้ในกองทุน Berkshire ในช่วง 50 ปีนี้ …
1,000,000×(1+0.208)^50 = 12,686,642,860
จะเป็นประมาณ 12.7 พันล้านเยนครับ/ค่ะ (หัวเราะ)
② วิธีการเลือกบริษัทที่มีคุณค่า (Value)
ครั้งที่แล้ว บอกว่า “ก่อนอื่นให้คำนวณ ROIC ของบริษัทที่สนใจและพิจารณาความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดบนฐานมูลค่าบริษัทเป็นสิ่งสำคัญในการเริ่มต้น”
อ่านต่อได้ที่นี่
↓↓↓
