การลงทุนแบบมูลค่า
① นิยามของการลงทุนแบบคุณค่า
นิยามของการลงทุนแบบคุณค่า คือ
“การลงทุนที่ทำกำไรจากความแตกต่างระหว่างมูลค่าที่แท้จริงกับราคาที่จ่ายไป”
ราคาที่จ่ายไป คือราคาหุ้นโดยตรง อย่างไรก็ตามมีผู้ถามว่า “การลงทุนแบบคุณค่คือการเลือกหุ้นที่มี PER ต่ำหรือ PBR ต่ำใช่ไหม” ไม่ใช่เลย
การลงทุนในหุ้นที่ถูกถือว่า ‘ถูก’ เมื่อแปลเป็นไทยอาจทำให้คิดว่าเพียงราคาหุ้นถูกก็พอ แต่ไม่ใช่กรณี
การลงทุนแบบคุณค่เริ่มต้นจากบิดาแห่งการลงทุนผู้ฉลาดอย่าง เบ็นจามิน เกรอแรม และ เดวิด โดด ในหนังสือร่วมเขียน “การวิเคราะห์หลักทรัพย์” ในคำอธิบายว่า
“สินทรัพย์ทางการเงินมีมูลค่าพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แท้จริง (intrinsic value) ซึ่งสามารถวัดได้อย่างถูกต้อง”
“ช่องว่างระหว่างคุณค่าและราคาตลาดนี้เรียกว่า margin of safety (ขอบความปลอดภัย) และหากซื้อด้วยความแตกต่างที่เพียงพอ ก็จะได้ผลตอบแทนมากในกระบวนการที่ราคาค่าความเป็นมูลค่าเรียงตัวสู่ค่า value”
จึงเป็นที่มาของแนวคิดการลงทุนที่แสวงหามูลค่าที่แท้จริงจึงกลายเป็นการลงทุนแบบคุณค่า
แล้ว intrinsic value=มูลค่าที่แท้จริงของบริษัท จะถูกวัดด้วยอะไร?
พูดให้กระชับก็คือวัดด้วยกระแสเงินสด
“กำไรตามหลักการบัญชี” (ยังเป็นช่วงเวลานั้น) และยังรวมถึงตัวชี้วัดที่คำนวณจาก “ราคาหุ้น=ราคา” เช่น PER, PBR หรือ EPS ที่สามารถคาดเดาได้ไม่ดีเท่าที่ควรในการตัดสินใจลงทุน
เมื่อต้นยุคฟองสบู่ IT สิ้นสุด มีนักวิเคราะห์หลายคนบอกว่าซื้อเมื่อ PER ของบริษัท IT สหรัฐ CSCO ลดลงถึง 100 เท่า (ฮา) ซึ่งลักษณะนี้เป็นแนวคิดที่ไม่จริงจังเท่าไร
กำไรตามบัญชีเป็นการปรับเปลี่ยนได้มากตามความประสงค์ของบริษัท โดยคำนึงถึงความถูกต้องและกฎหมาย
ในบางกรณีมีส่วนที่เป็นการบิดเบือนที่ถูกตีกรอบไว้ด้วย
บริษัทอย่าง Sharp ที่สะสมสินค้าคงคลังเพื่อเพิ่มกำไร หรือในกรณี Toshiba ที่ทำการกระทำที่ยังไม่ชัดเจนแต่ยังอยู่ในขอบเขตก็มีหลากหลายกรณี
กำไรตามบัญชีเป็นเพียงตัวเลขบนโต๊ะ แต่มิได้หมายถึงเงินสดที่เข้ามาตามจำนวนตัวเลขนั้นเสมอไป
และหากเงินสดจริงไม่เข้าถึง ก็ไม่สามารถจ่ายเงินเดือนหรือกินข้าวได้
จำเป็นต้องหมุนเวียนเงินสดให้ได้ในกิจกรรมต่างๆ เพื่อรักษากิจการไว้ เพราะเหตุนี้จึงควรพิจารณาเงินสดเป็นปัจจัยหลัก
② ความแตกต่างระหว่างกำไรและกระแสเงินสด ความเสี่ยงคืออะไร?
อ่านต่อได้ที่
↓↓↓
